ชิมเบียร์ เล่นไอซ์ ชมไฟ :-)

วันนี้มีคนลากไป "ชิมเบียร"์ (รายละเอียดอ่านได้ ที่นี่) หลังจากชิมเบียร์เสร็จ ก็เลยเปลี่ยนเป็นคนลากคนอื่นมา "ชมไฟ" บ้าง ก็เลยเอารูปมาอวด ถ่ายเองบ้าง คนอื่นถ่ายบ้าง แถมด้วยเล่นไอซ์สเก็ต กลางสวน บรรยากาศสุดโรแมนติก (แต่คนเยอะไปหน่อย)


ดูรูปอื่นๆ คลิก



อยากดูอีก คลิก

โฆษณา

อ๊ะๆ อย่าตกใจ ไม่ได้เข้า blog ผิดแต่ประการใด

สืบเนื่องมาจากไปตบแต่ง blog ป๊ะป๋า แต่แก้ได้ไม่สะใจ เพราะป๊ะป๋า กลัวว่า blog จะมีปัญหา เดี๋ยวคนเข้ามาอ่านไม่ได้ ก็เลยต้องมาหาทางระบายออก

และแล้ว เมื่อไม่มี blog ใครมาเป็นเหยื่อ ก็เลยต้องจัดการกับ blog ตัวเอง ลองไปลองมาจนเละ component บางอย่างมันก็เลยหายไป แงๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะ links blog ของเพื่อนๆ

ดังนั้น ท่านที่อยากให้เราเข้าไปอ่าน blog ท่านเหมือนเดิม กรุณา post link ไว้ให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง :-)

ในหนึ่งวัน

ชอบมีคนถามว่า อยู่ที่นี่ วันๆ ทำอะไรมั่ง ???
อืม... วันนี้ ทำอะไรมั่งน๊า

ตื่นมา กินข้าวเสร็จ ไปเล่นไอซ์สเก็ต ล้มก้นกระแทกไปหนึ่งที
กลับมา นั่งดูละคร ต่อจนจบ
จัดห้อง (อีกแระ) อันนี้ใช้เวลานานหน่อย อืมครั้งที่เท่าไหร่เนี่ย แต่คุณ pC บอกว่า ห้ามเปลี่ยนอีกแล้วนะ จนกว่าคุณ pC จะเรียนจบ (ฝันไปเต๊อะ เดี๋ยวก็หาเรื่องจัดใหม่อีกอยู่ดีแหละ อิอิ)
กินข้าว วันนี้ พี่ พ. ทำขนมจีนน้ำเงี๊ยวให้กิน อร่อยดี
กินข้าวเสร็จ ขึ้นมาจัดห้องต่อ
ข้าวเย็นย่อยแระ ไปว่ายน้ำ ดีกว่า
กลับมาคุยกับพ่อ สอนพ่อทำ blog
อาบน้ำ เขียน blog
อีกสักพัก คงนอนแล้วแหละ

จบ... หนึ่งวัน

เบลอ ๆ

ตอนเช้า คุณ pC บ่นว่า --> เนี่ยโทรศัพท์เค้าชาร์จไม่เข้าอีกแล้วล่ะ สงสัยถ่านจะใกล้เจ๊งแล้วอ่ะ
Me : แต่เค้ารู้แหละว่าทำไมถึงชาร์จไม่เข้า
pC : เหรอๆ ทำไมล่ะ
Me : ก็ตัวเสียบปลั๊กที่ชาร์จแค่รูเดียว มันคงชาร์จเข้าหรอก
pC : จริงอ่ะ ไม่จริงหรอก ใครจะเสียบแค่รูเดียว
Me : จริงๆ เมื่อเช้าเค้าเป็นคนถอดปลั๊ก ก็เห็นมันเสียบแค่รูเดียว ยังว่าแปลกๆ

ระหว่างนั้น คุณ pC ก็เสียบปลั๊กชาร์จ ลองใหม่
pC : เออ ชาร์จได้แล้วแหละ แหะๆๆ

นินทา (อีกแระ)

สถานที่ : ใน subway station ที่ Park Street
วันและเวลา : เมื่อวานนี้ เกือบๆ ห้าโมงเย็น
เสียงโทรศัพท์ดัง
pC : อยู่ไหนแล้วคะ
Me : อยู่ Park street แล้วค่ะ กำลังจะกลับบ้านค่ะ ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ
pC : เสร็จแล้วอยู่บ้านแล้วครับ งั้นเดี๋ยวเจอกันที่บ้านละกันครับ
Me : ค่ะ อ้อ หุงข้าวไว้ให้หน่อยนะคะ
pC : ok ครับ

-------------------------เวลาผ่านไป -> ถึงบ้านแระ----------------------

เนื่องจาก มีคนมากินข้าวด้วยหลายคน ก็เลยทำกับข้าวกันหลายอย่าง มีแกงส้มชะอมไข่ (แต่ไม่ได้ใช้ชะอม ใช้วอเตอร์เครสแทน) ห่อหมกปลาแซลมอน ไก่ห่อใบเตย แล้วก็ยำปลากระป๋อง และเนื่องจากทำหลายอย่าง ก็เลยต้องช่วยๆ กันทำ คนละอย่างสองอย่าง กว่าจะเสร็จก็พักหย่ายๆๆๆๆๆๆๆ เย้ๆๆๆ กินได้แล้ว หิวจะแย่
ว่าแล้ว ก็จัดโต๊ะเตรียมกินข้าว ยกกับข้าวออกมาแระ คุณ pC ก็ยกหม้อหุงข้าวตามมา เตรียมจะตักข้าว

pC : เฮ้ย !!! ทำไมข้าวยังไม่สุกอ่ะ
Me : จริงเหรอ o_O
pC : มีใครมาดึงปลั๊กออกหรือเปล่าอ่ะ
Me : เค้าเป็นคนดึงเองแหละ แต่เพิ่งดึงตะกี๊เองนะ แถมเค้าเห็นว่ามันอยู่ warm แล้วด้วย เลยดึงปลั๊กออก !!! แปลว่าคุณน่ะแหละ ลืมกดข้าวให้มัน cook !!! อ่ะ

สรุป ก็เลยต้องรอข้าวสุก แงๆๆๆๆ หิวจะตายอยู่แล้วอ่ะ นึกว่าทำกับข้าวเสร็จจะได้กินเลย

ใบไม้เปลี่ยนสี

หลังๆ พอไปไหนมา รูปจะไปถูก show ที่ blog คุณ pC
แต่คราวนี้ไปดูใบไม้เปลี่ยนสี ไปกันสามคน เอากล้องไปสามตัว
ถือกันคนละตัว เลยอยากโชว์รูปบ้าง :-)
กล้องตัวนี้เป็นตัวใหม่ ยังไม่ชินมือเท่าไหร่ แต่ว่าถ่ายสนุกดี
จาก trail ที่ควรจะใช้เวลาเดินแค่ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง
ก็เดินไปซะเกือบสี่ชั่วโมง เพราะถ่ายกันทุกๆ สิบก้าว
ถ่ายไปถ่ายมา อย่างเพลิดเพลิน
แต่ที่ไหนได้ มารู้เอาตอนจะกลับว่า ตั้ง White balance ผิด
จริงๆ แล้วไม่ได้ดูว่าเดิมกล้อง set ไว้ยังไง รับมาจากคุณ pC ก็ถ่ายเลย
แงๆๆๆๆ ตกม้าตายตอนจบซะได้ แย่จัง T_T

นินทา

วันนี้อยู่ดีๆ กำลังขับรถกลับบ้าน คุณ pC ก็พูดขึ้นมาว่า "ข่าวร้ายประจำวัน"
ไอ้เรา ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ คิดว่า มีไรหว่า
แล้วก็สารภาพมาว่า
pC : "จักรยานเค้าหายอ่ะ จอดไว้หน้าบ้าน พอวันนี้ตอนเช้าจะขี่ไป T station มันก็ไม่มีแล้ว"
Me : "จักรยานคุณหายเหรอ" (ทำหน้าแบบ แปลกใจมาก เนื่องจากสภาพจักรยาน ประมาณยุค '70 เกียร์ไม่มี แถมเบรคไม่ดีอีกต่างหาก)
Me :"ล็อคไว้หรือเปล่าคะ"
pC : "ล็อกซิ ก็ล็อกทุกครั้งแหละ"
Me : "ลืมจอดไว้ที่โรงเรียนหรือเปล่าคะ"
pC : "ไม่นะ วันศุกร์ขี่กลับมา เค้าจำได้"
Me : "โห จักรยานคุณยังหายเลย แล้วอีกสามคันหลังบ้าน (ที่สภาพดีกว่าประมาณ 200%) เนี่ยจะรอดเหรอ ไม่ได้การแล้ว ต้องเอาอีกสามคันมาเก็บไว้ในบ้านแล้วล่ะ"

ว่าแล้ว ก็ช่วยกับคิดว่าจะเก็บจักรยานสามคัน ไว้ในบ้านยังไงดี โดยมีพี่ พ. ช่วยคิดอีกคนนึง ระหว่างกำลังระดมความคิดอยู่นั้น

pC : "ว่าแต่ไม่มีใครเสียดายจักรยานของเค้าที่หายไปเลยเหรอ มัวแต่คิดว่าจะเก็บจักรยานอีกสามคันยังไง ^_^" "
Me & พี่ พ. : "แหะๆๆๆ "

ก่อนถึงบ้าน
Me : "แวะไปดูจักรยานที่โรงเรียนก่อนไหมคะ" (ยังไม่เชื่อว่ามันจะหายไปได้ไง ใครจะอยากได้จักรยานพรรคนั้น)
pC : "อืม อยากไปดูก็ได้จ้ะ แต่เค้าจำได้นะว่า เค้าขี่กลับบ้านแล้วจริงๆ ไม่ได้จำได้เฉยๆ นะ รู้สึกเลย แบบว่า ยังจำความรู้สึกที่ขี่จักรยานกลับบ้าน สายลมที่ผ่านหน้า ความรู้สึกที่สัมผัสกับอานจักรยาน มันหายไปจริงๆนะ" (เวอร์ สุดๆๆๆๆ แล้วก็ย้ำอีกหลายรอบ)

แล้วก็แวะไปดูที่จอดรถจักรยานที่จอดประจำ
Me : "นั่นไงคะ"
pC : อึ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหวอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "มันอยู่ที่นี่ได้ยังไงอ่ะ o_O "


สรุป ไม่รู้ว่า คุณ pC จำไม่ได้จริงๆ หรือแกล้งกุเรื่องขึ้นมา เพื่อกำจัดจักรยานคันเก่า จะได้ซื้อจักรยานใหม่คะเนี่ย

เมนู วันนี้ :-)

ป.ล. คุณ pC อยากกินอาหารญี่ปุ่นมาก ถึงขนาดเปิดเพลงญี่ปุ่น กดดัน (บวกกับกระแนะกระแหน เล็กน้อย)

ลองของ (ใหม่)

เมื่อวานไปเดินเที่ยวแถวๆ Harvard เจอร้านเครื่องเขียนร้านนึง มีของที่ใช้ในการการขีดๆ เขียนๆ เยอะเลย
ยืนเลือกสี อยู่พักใหญ่ ยังไม่ได้ ร้านก็ปิดไฟไล่อ่ะ แงๆๆๆๆๆๆ
เป็นเพราะถึงเวลาปิดร้านของเขาแล้ว ว้า มาเย็นไปหน่อย
เลยได้มาแค่ สมุดสเก็ตภาพเล่มนึง
เลยประเดิมซะ โดยมี "เจ้าพุงกลม" เป็นนายแบบกิตติมศักดิ์


ปล. วันหลังมีเวลา จะต้องไปสอยสีสวยๆ ร้านนั้นให้ได้เลย

ว่าด้วยเรื่องของ "สถิติ"

วันนี้นึกอย่างไร ก็ไม่รู้ ลอง check ดู rating blog ของตัวเอง (ที่ไม่เคยได้เข้าไปดูนานๆ มากๆ หกเดือนขึ้นไป)
!!! พบว่า !!!
มีคนเข้ามาดู เฉลี่ยวันละ 6 คน

"4 ใน 6 เป็นตัวเอง กะคนกันเอง แหะๆๆๆ
อีกหนึ่ง เป็นคนที่หลงมาจากการ search คำบางคำใน google
อีกหนึ่ง เป็นคนทีอ่าน blog ที่ผลัดๆ กันเขามาแวะอ่านบ้าง :-) "
(เอาเต๊อะ เฉลี่ยมีคนอ่านวันละหนึ่ง ก็ยังดีเนอะ ดีกว่าไม่มีเลย)

แต่... มาคิดดูแล้ว ลูกค้าน้อยจริงๆ ปิด blog ทิ้งดีซะดีมั้ยเนี่ย

(คิดๆ ไปอีกที คนเขียน ยังขี้เกียจ เขียนเลย คนอ่านคงขี้เกียจอ่าน บ้างแหละ)

สรุปว่า ยังไงดี ????

ติ๊กตอกๆ ติ๊กตอกๆ ติ๊กตอกๆ ติ๊กตอกๆ ติ๊กตอกๆ ติ๊กตอกๆ ติ๊กตอกๆ ติ๊กตอกๆ บึ้ม!!!!
ยังคิดไม่ออกอ่ะ ก็เลยปล่อยมันไว้ก่อนละกัน :-P

จัดห้องใหม่

หลังจากที่ไปเมืองไทยกลับมาหลายวัน รู้สึกว่านอนฝันร้ายทุกวันเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีทุกวันเลย ก็เลยคิดกันว่า หรือเพราะเราหันหัวนอนไปทางทิศตะวันตก เพราะห้องมีหน้าต่างด้านนั้นก็เลย จัดห้องกันใหม่ดีกว่า :-)


(ลึกๆ เป็นเพราะอยากจัดห้องใหม่อ่ะ แต่ไม่มีเหตุผลมาสนับสนุน คุณ pC จะไม่ยอมยกของให้)


เมื่อมีเหตุให้ต้องจัดห้องใหม่ ก็เริ่มลงมือเลย เดี๋ยวอีกคนจะเปลี่ยนใจ ก็จะอด ต้องนอนเหมือนเดิม
มีคนคิดหนึ่งคน คนยกหนึ่งคน พร้อมแล้ว
กว่าจะจัดเสร็จ คนคิด ก็หมดแรง หลับปุ๋ย คนยก เหงื่อท่วม แต่ก็ต้องนั่งทำงานต่อ น่าสงสารจัง

หมายเหตุ จัดห้องใหม่ไป 4 รอบใน 6 เดือน (ขี้เบื่อซะจริงๆ)

กิจกรรมวันหยุด

หลังจากที่วันธรรมดา แทบจะไม่ได้ออกจากบ้าน จะออกไปบ้าง ก็แค่ไปขี่จักรยาน วันนี้วันเสาร์ ได้ออกจากบ้าน เย้ๆ

เริ่มจาก ไปซ้อมดนตรีไทย ที่หอพักใน MIT จริงๆ เมื่อเสาร์ที่แล้ว ก็ไปซ้อมกันทีแล้ว ไม่ได้เล่นกันเป็นวงมานานมาก สนุกจัง วันเสาร์นี้ก็เลยติดใจไปอีก :-)

วันนี้มีคนมาเยอะกว่าเดิม และมีคนเอาเครื่องดนตรีมาเพิ่ม แถมมีนักร้องด้วย เลยยิ่งสนุก น่าเสียดายที่ไม่ได้เอาเครื่องดนตรีของตัวเองมาเลย ก็เลยต้องไปขอยืมเครื่องดนตรีคนอื่นๆเล่น กะว่าคราวหน้ากลับเมืองไทย ต้องขนติดมาบ้างแล้ว จะได้มีซ้อมที่บ้านด้วย เล่นไปชั่วโมงครึ่ง ก็ต้องรีบเผ่นออกมาก่อน เพราะว่าต้องไปที่อื่นต่อ

กิจกรรมถัดไป คือ เล่นโยคะ (เป็นครั้งแรกหลังจากมาเมกา และมากกว่าหกเดือน หลังเล่นครั้งสุดท้ายที่เมืองไทย) จากเหตุผลในวงเล็บ คือไม่ได้เล่นมานานมากๆๆๆๆ ตัวก็เลยแข็ง ทำไม่ค่อยได้เลยแฮะ (จริงๆ ธรรมดาก็ทำไม่ค่อยได้หรอก :-P ) แถมฟังฝรั่งสอนไม่รู้เรื่องอ่ะ มีสวดเป็นภาษาแปลกๆ อีกต่างหาก แต่ถึงจะทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ได้เหงื่อมาพอสมควร กะได้บิดๆ งอๆ ตัว ก็ดีเหมือนกัน รวมเบ็ดเสร็จ เล่นโยคะชั่วโมงครึ่ง (ถ้าเล่นมากกว่านี้ สงสัยตายแน่ๆ)

คราวนี้ไปเดินห้างต่อ เป็นห้างอยู่ใกล้ๆ MIT คล้ายๆ Central บ้านเรา ก็เดินเข้าเดินออก ลองโน่นลองนี่ เพลินมากๆ สุดท้ายได้เสื้อมาหนึ่งตัว จริงๆ ถ้าไม่ตัดใจ คงจะได้หลายตัว แต่เห็นว่าจะกลับเมืองไทยอยู่แระ ไปซื้อที่บ้านเราน่าจะถูกกว่า ก็เลยตัดใจได้ เดินกันจนเกือบสองทุ่ม พอเลิกเดินปุ๊บ ก็หิวปั๊บ

แต่มีคนหิ้วท้องรออยู่ที่บ้าน ก็เลยไม่กินข้างนอก ซื้อข้าวกับไปกินที่บ้านแทน เป็นบะหมี่ทรงเครื่อง กะ ข้าวผัดอินโดฯ อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ (ไม่รู้ว่าเพราะหิวมากๆๆๆๆๆๆ หรือเปล่า :-P) กินเสร็จ ก็ดูหนังอีกหนึ่งเรื่อง วันนี้ดูหนังไทย เรื่อง "ขุนกระบี่ ผีระบาด"(จริงๆ เมื่อวานก็ดูหนังไทย เรื่อง "สัตว์ประหลาด") เฮ้อ ช่างแตกต่างอะไรเช่นนี้ แต่ที่เหมือนกันก็คือ รู้สึกว่าเสียเวลาดูชะมัด

หมดไปหนึ่งวัน เฮ้อ เหนื่อยจัง

ขนมถ้วย กะ เส้นหมี่หมูย่าง

วันนี้ นายช่างยุ่งมาก แล้วก็ยึดห้องนอนเป็นห้อง conference กะ his dearest prof. ไปซะแล้ว
ทำไรดีล่ะเนี่ย อืม.... วันก่อนเพิ่งซื้อแป้งข้าวเจ้ามา ทำไรเล่นดีก่า
แอ่น....แอน...แอ๊น....



ได้ของหวานแล้ว แล้วของคาวอ่ะ ทำไรดี นายช่างก็ยังประชุมไม่เสร็จซะที
หันซ้ายหันขวา ทำเส้นหมี่หมูย่างดีกว่า
ลงทุนย่างหมูเลยนะเนี่ย ขยันสุดๆๆๆๆๆๆ

0^_^0 หน้าตาพอจะกินได้มั้ยอ่ะ 0^_^0

ไปนิวยอร์กอีกหน (ครั้งที่สอง)


มีเหตุให้ต้องไปนิวยอร์กอีกหน
คราวนี้ออกจากบ้านตั้งกะหกโมงวันอังคาร กว่าจะไปถึงสถานี กว่าจะได้ขึ้นรถ ก็ปาเข้าไปทุ่ม
นั่งรถปุเลงๆๆๆ ไปเกือบสี่ชั่วโมง ก็มาถึงนิวยอร์ก ห้าทุ่ม
ต่อ subway ไปถึงที่พัก ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน หมดแรง
ไปถึงก็นอนเอาแรง ตื่นมาแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ รีบออกไปสถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก (ชื่อยาวชะมัด)
ไปถึงเก้าโมงกว่า กรอกเอกสารยื่นคำร้อง เสร็จแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ ถามว่ามาจากไหน บอกว่ามาจาก boston (จริงๆ อยากบอกอีกว่า นับตั้งแต่ออกจากบ้าน จนถึงนิวยอร์กเนี่ย ห้าชั่วโมง เชียวนะ)แล้วก็ถามว่า ขอเอกสารวันนี้ได้ไหม เจ้าหน้าที่เลยบอกว่าให้กลับมาตอนบ่ายสาม (มองนาฬิกา) โห นี่เพิ่งจะสิบโมง อีก 5 ชั่วโมงจะบ่ายสาม ไปทำอะไรดีละเนี่ย

เดินเล่นอยู่แถวๆ นั้น เดินไป เดินมา เริ่มไกล ขึ้นทุกที ไปนั่งมองดูคนเดินผ่านไป ผ่านมา แถวป้ายรถเมล์
คนที่นี่ แต่งตัวได้หลากหลายดีจริงๆ บางคนแต่งแบบมาเดินแบบเลยก็มี บางคนก็แต่งป้ามากๆ บางคนแต่งเหมือนอากาศร้อนมาก ใส่สายเดี่ยว กระโปรงสั้น บางคนก็ยังใส่เสื้อ sweater กับ coat ยาวๆ อยู่เลย นั่งดูไป ก็เพลินๆ ดี เบื่อดูคน ก็ดูจักรยานแทน จักรยานที่นี่ ส่วนใหญ่จะโทรมๆ หน่อย เพราะถ้าดูดี คงมีคนจิ๊กไปเรียบร้อยแล้ว เห็นได้จากแต่ละคัน มีโซ่เส้นเบ้อเริ่มคล้องทุกอย่างที่คนจะเอาไปได้ แบบล่ามตัวถังกะล้อหน้าไว้กะเสา แล้วก็ล่ามล้อหลังไว้กะตัวถัง แถมบางคันยังต้องล่ามเบาะไว้กับตัวถังอีกต่างหาก แล้วก็มีแฟชั่นอีกอย่างคือ คนขี่ จะเอาโซ่ (เส้นเท่าล่ามช้าง) มาคล้องที่เอว หรือไว้ที่คอ พอตอนจอด ก็เอามา lock จักรยาน อืม ขี่จักรยาน ก็เหนื่อยแล้ว ยังถ่วงน้ำหนักอีก คนขี่ต้องแข็งแรงมากๆ นะ ถึงจะขี่จักรยานในนิวยอร์กได้

นั่งดูคน ดูรถ อยู่เป็นชั่วโมง เริ่มหิวแล้ว จะกินอะไรที่ไหนดีเนี่ย เบื่อกินแม็ก จะแย่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า อืมใน comp มี map นี่นา อาจจะมีบอกร้านอาหารแถวนี้บ้าง เปิด comp แต่ไม่ได้เอา GPS มา ตอนแรกนึกว่าจะหายาก แต่ปรากฎว่าโปรแกรมมันสามารถเช็ค location ที่อยู่ขณะนั้นได้เลย ดีแฮะ เจอร้านนึง ชื่อน่าสนใจ Teriyaki boy เดินไปอีกประมาณสองสามบล็อกเอง ลองไปดูดีกว่า ไปถึงเป็นร้านญี่ปุ่นแบบ fast food ใส่กล่องกลับไปกิน หรือนั่งกินที่ร้าน ก็ได้ มีเป็น lunch set ด้วย แถมน้ำ หรือมิโซซุป ให้เลือก มีไก่ กะปลาแซลมอน ก็เลยสั่งกันคนละชุด รสชาติก็พอใช้ได้ มีชูมัย กะ ข้าวปั้นด้วย แล้วก็สั่งยำสาหร่ายมาอีกอย่าง ก็เลยกลายเป็นมื้อใหญ่ อิ่มมาก แถมราคาก็ไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับเวลาไปกินร้านญี่ปุ่น กินเสร็จ ก็ไปเดินเล่นแถว grand central ที่นี่เป็นเหมือนหัวลำโพงบ้านเรา แต่อลังฯ กว่ามาก แล้วก็มีร้านให้เดินหลายร้าน ไปดูในร้าน discovery มีของเล่นให้ดูเยอะแยะดี ของเล่นแปลกๆ เช่น ที่เลี้ยงมด เอาไว้ดูมันทำรัง เดินจนเหนื่อย ใกล้เวลานัดแล้ว ก็เลยคิดว่าเดินกลับดีกว่า เพราะเดินมาไกลมาก คงต้องใช้เวลาเดินกลับพอสมควร

ปรากฎว่าไปถึงเค้าก็ให้ตรวจร่างเอกสารว่าถูกหรือเปล่า มีผิดนิดหน่อย ก็เลยต้องเอาไปแก้ ก็นั่งรออีกพักใหญ่ เค้าก็เรียกให้ไปเซ็นต์ชื่อ เกือบจะเซ็นต์อยู่แล้วเชียว แต่ดูชื่อแล้ว อ้าวไม่ใช่ชื่อเรานี่นา เจ้าหน้าที่ print มาผิดคน ก็เลยต้อง print ใหม่ นั่งรออีก แถม เอกสารก็ยังมีพิมพ์ผิดอยู่อีก รออีกพักใหญ่ ทีนี้ ถูกแระ พอเซ็นต์ชื่อเสร็จ เค้าต้องเอาไปให้นายเซ็นต์อีกที นั่งรออีกที กว่าจะเสร็จได้เอกสารตามที่ต้องการก็เกือบจะสี่โมงเย็น กลับไม่ทันรถรอบสี่โมงเย็น ต้องกลับรถรอบห้าโมง เวลาที่ทุกคนเลิกงาน เฮ้อ รถติด คนขับขับแบบหวานเย็น แถมมีจอดแปลกๆ อีก มาถึงสถานีที่ boston ก็สี่ทุ่มกว่า กว่าจะถึงบ้านอีก เฮ้อ เหนื่อยมาก

แค่กระดาษไม่กี่แผ่น ต้องใช้เวลามากกว่า 24 ชั่วโมง อีกนะเนี่ย เฮ้อ !!!


My Memories



ผ่านมาจะ 3 เดือนแล้ว แต่เพิ่งจะได้ดูภาพถ่ายวันงานทั้งหมด
เพราะว่า หลังจากวันงาน อีกสองวันก็เดินทางเลย
ภาพกับ VDO ก็เลยยังไม่เรียบร้อย


จน P' Moo+ หอบมาให้ถึงนี่
จริงๆ ก็ให้ตั้งแต่วันแรก ที่มาถึงแหละ
แต่เพิ่งจะมีเวลาว่าง upload ขึ้น web เสียที


ถึงจะช้าไปนิด แต่มาดูอีกที ก็มีความสุข ดี :-)



(คลิกที่ link "Morning & Evening" ด้านบนเพื่อเข้าไปดูภาพได้ค่ะ)

อากาศดี ดีจังเลย ภาค 2

อากาศดีต่อเนื่องมาจนถึงวันอาทิตย์
(คือ หลังจาก P' Moo+ กลับ ปุ๊บ อากาศก็ดีปั๊บเลย :-P )
นอนตื่นสายนิดหน่อย เพราะว่า เมื่อวานไปขี่จักรยานเหนื่อย
ยังเมื่อยอยู่ แต่คุณ pC บอกว่า เมื่อวานเหมือนไม่ได้ออกกำลังกายเลย
วันนี้ไปตีเทนนิสกันนะ

อืม... จริงๆ ก็ยังเหนื่อยอยู่เลยน๊า....
เอ้า ไปก็ไป
ว่าแล้วเก๊าะ ขี่จักรยาน ไปตีเทนนิส กัน
(ตามประสา คนกะลังเห่อจักรยานใหม่ อิอิ)

ไปถึง โชคดีจริงๆ สนามว่างหนึ่งสนาม ได้เล่นเลย
ว่าแล้วคุณ pC ก็พยายาม จะสอนให้คนไม่เคยตีเทนนิสมาก่อน ให้ตีให้โดนลูก
แต่ว่า แหะ ๆ ตามประสาคนมีพรสวรรค์ในการเล่นกีฬา เป็นเลิศ
(แต่ด้านติดลบอ่ะ)
เสริฟมาให้สิบลูกจะตีโดนซักลูกหนึ่ง
สักพัก เริ่มจะดีขึ้น เริ่มตีโดนแระ แต่....... ตีไปไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้ลงคอร์ทเลย แหะๆๆๆ
ตีกันไปสาม-สี่ ตะกร้า (ตีเทนนิส แต่ไหงมันเหมือนปามะกอกหว่า)
คนถูกสอนก็หมดแรง

พอดีมีเหยื่อมาใหม่ เป็นหนุ่มเกาหลีซะด้วย ก็เลยชวนมาตีกับคนสอน
ตีเล่นๆ สักพัก ไม่หนุก แข่งกันดีกว่า
เอาเป็นว่า ใครแพ้ ต้องเป็นคนทำอาหารเย็นนี้
อิอิ ใครจะแพ้ ใครจะชนะ เราก็สบาย ไม่ต้องทำกับข้าวเย็นนี้ :-P
แข่งกัน 3 เกมส์ ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ พอถึงเกมส์สุดท้าย ดิวส์ กันอีกหลายรอบ
จนคนแข่งจะหมดแรงแล้ว ในที่สุด ....
!!! หนุ่มเกาหลี ก็พลาดไปในวินาทีสุดท้าย !!!

ตอนเย็น ก็เลยได้กิน "หมูเกาหลี" อิอิ อร่อยจัง

อากาศดี ดีจังเลย :-)

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ฝนยังตก อากาศยังหนาวอยู่เลย
พอวันศุกร์ อากาศก็เริ่มอุ่น มีแดดกะเค้าบ้าง
แต่แรก ตั้งใจว่า วันเสาร์ จะอยู่บ้านทั้งวัน ไม่ไปไหน
เพราะก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่
อยู่ๆ ก็มีคนมาชวนไปขี่จักรยาน
แต่ !!! คนชวน ก็ไม่มีจักรยาน !!!! คนถูกชวน ก็ไม่มีจักรยาน !!!
เลยต้องไปซื้อกันก่อน

ไปที่ Target ก่อน ไปดูจักรยานสวยดี ชอบ
แต่ว่า "!!! มันแพงไปหน่อยอ่ะ !!!"
ก็เลยไปดูกันอีกที่นึง ราคาถูกลงมาหน่อย
เลยได้ถอย "รถจักรยาน" ป้ายแดงมาหนึ่งคัน :-)

กว่าจะได้ออกไปขี่ ก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นแระ
สนุกมาก ไม่เคยขี่จักรยาน แบบมีเกียร์มาก่อน ก็ขี่ไปไกลเหมือนกัน
กลับมา เหนื่อยเลย แถมเจ็บก้นอีกตะหาก

( ทำไมเค้าไม่ทำเบาะจักรยาน นิ่มๆ น๊อ ไม่เข้าใจเลย ทำอันกะติ๊ดเดียว
จะว่าประหยัดต้นทุน ก็ไม่น่าใช่ ชิ้นส่วนอื่นน่าจะแพงกว่า ตั้งเยอะ
แถมราคาจักรยาน ก็ไม่ใช่ว่าถูก ซะกะหน่อยเนอะ
บ่น บ่น บ่น ๆๆๆๆๆๆๆ บ่น บ่น บ่น )

เค้ก จ้า เค้ก

วันนี้ฝนตก ลมแรงมาก มีเสียงวิ้วๆ อยู่รอบบ้านตลอดเวลา
อากาศก็หนาว ไม่น่าออกไปไหนเสียจริง
แต่อยู่บ้าน ทำไรดีล่ะ หาอะไรเล่นดีกว่า
หันไปหันมา เจอแต่ "กล้วยหอม"
อืม ทำ "เค้กกล้วยหอม" ดีกว่า

ไปหาวิธีทำใน internet ก่อน :-)
(เวลาผ่านไป 15 นาที)

แงๆๆๆๆๆ ทำไงดีอ่ะ มันต้องใช้แป้งเค้กอ่ะ
( อ้าว !!!! ก็จะทำเค้ก ก็ต้องใช้ "แป้งเค้ก" ดิ ใครๆ ก็รู้)
แต่ ในบ้านไม่มีแป้งเค้ก เลยนี่นา ทำไงดี ทำไงดี
หาใหม่ๆๆๆๆๆ ใช้อะไรแทนได้น๊อ.........

ใช้แป้งข้าวเหนียวแทนได้ป่ะ (ถามตัวเอง) มันคงออกมาเป็นขนมกล้วยเหนียวๆ แน่เลยอ่ะ
ใช้แป้งขนมปังได้มั้ย (ถามตัวเอง) คิดไม่ออกเลยว่าจะออกมาเป็นไงอ่ะ

หาข้อมูลต่อดีกว่า

(เวลาผ่านไปอีก 15 นาที)

ในที่สุด !!!! เราก็เจอ อิอิ

สูตรทำเค้กกล้วยหอมที่ง่ายที่สุดในโลก (ในเวป เค้าเขียนแบบนี้จริงๆ นะ)


แล้วนี่คือ ผลงาน คับ :-)



หาเรื่อง

ไม่ได้ up blog เสียนาน เหมือนจะไม่มีอะไรมาเล่า
แต่จริงๆ คงเป็นเพราะขี้เกียจเขียนซะมากกว่า
ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี
แต่เดิม มี blog กับเค้า blog เดียว ก็นานๆ จะ up ที
ตอนนี้ หาเรื่อง อ่ะ - -"
ไปทำ multiply อีกอัน แล้วนี่ จะเอาอะไรไป update ละเนี่ย
แต่ก็คิดว่าจะยัง up blog นี้ไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าใครอยากดูรูป ก็ต้องตามไปที่ multiply แล้วล่ะ คงต้องไปๆ มาๆ กันหน่อยนะ :-)













Snowman :-)

หิมะตกอีกแล้ว :-)
คราวนี้ ตกหนักเสียด้วย ตกตั้งกะเช้ายันเย็นเลยทีเดียว
มองดูจากนอกหน้าต่าง ตั้งแต่มันพื้นยังเป็นหญ้าแห้งๆ อยู่
จนขาวโพลนไปด้วยหิมะ หนาหลายนิ้ว
ก็ไม่ได้ออกไปเล่นซักที เพราะไม่มีคนเล่นด้วย
ตอนเย็นคนมาเต็มบ้าน อิอิ มีเพื่อนเล่นแล้ว
เล่นกันหลายคน สนุกกว่า เล่นคนเดียวตั้งเยอะ





หลังจากนั้น พักหย่ายๆๆๆๆๆๆ
แล้วเราก็มี Snowman หน้าตาเหมือนโดราเอมอน มาถ่ายรูปด้วย












วันหยุด :-)


อากาศเริ่มอุ่นแล้ว พอที่จะออกไปเดินเล่น
วันเสาร์ ก็เลย พากันออกไปเดินเล่นในเมืองกัน :-)

หม้อกาแฟ หน้าร้านสตาร์บัค เห็นแล้วตลกดี ถ้ามันหล่นลงมา จะทำไงหว่า



จริงถ่ายรูปมาเยอะอ่ะ แต่ถ้าให้คุณเจ้ดูหมด เดี๋ยวไม่ตื่นเต้นน๊า

เอามั่ง :-P

ไปดู blog คุณเจ้ แล้วอิจฉา ไปเที่ยวบางปูมา
ไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว จำได้ว่าแถวนั้น อาหารอร่อย อิอิ (คิดแต่เรื่องกิน)
แถมถ่ายรูปนกมาซะสวยเลย
ก็เลยนึกได้ว่า วันก่อนไปเดินเล่น ก็ถ่ายรูปนก มาด้วยนี่นา
เอามา post มั่งดีกว่า ให้ดูเล่นๆ

ถึงรูปจะไม่สวยเท่าของคุณเจ้ เพราะอากาศมันหนาวอ่ะ
แถมต้องใส่ถุงมือถ่ายรูป มันเก๊าะไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
(จริงๆ แล้ว มันขึ้นกับฝีมือคนถ่ายนั่นแหละ แต่ไม่ยอมรับอ่ะ)

เอาเป็นว่า อยาก up blog แต่ไม่มีมุขค่ะ


ป.ล. ดูภาพแล้ว เผื่อคุณเจ้ อยากจะมาถ่ายรูปนกที่นี่ บ้าง :-)

ว่างจัด


:-D


เมื่อวาน รู้สึกเหงาๆ ไม่มีคนคุยด้วย

หน้าตาก็เลย ไม่ค่อยจะยอมยิ้ม

กลับมาเจอ.... ยิ้มออกเลย

ขอบคุณนะคะ



WoW !!! Snow

ตอนแรก มาถึงที่ boston ใครๆ ก็พากันบอกว่า หิมะคงตกแน่ๆ เลย
มาได้สองอาทิตย์แระ ก็ไม่มีวี่แวว ว่าจะได้เห็นหิมะเลย
ได้แต่ตกมาปรอยๆ ให้ตื่นเต้นเล่น


คราวนี้ ได้เห็นหิมะ สมใจอยากแระ
แค่ข้ามคืน รอบๆ บ้าน ก็เต็มไปด้วยสีขาวโพลน

ตื่นเต้นๆ เหมือนในนาเนียเลยอ่ะ กิ๊วก๊าวๆๆๆๆ





เช้าก็เลยออกไปเดินย่ำหิมะ อิอิ


More Pictures

Happy Valentine's Day

ไม่มีความรักใด ยิ่งใหญ่เท่า มิตรภาพที่มีให้แก่กัน
"สุขสันต์วันแห่งความรัก"






หอบหิ้ว


รูปนี้ เป็นของขวัญได้มาจากเพื่อนคนนึง
ให้พร้อมกับ ลูบหัว โอ๋ๆ มีรูปไว้โชว์หน้างานแล้วนะ

ตอนแรก ไม่ได้ไปถ่ายรูป สตูฯ รู้สึกเสียดายนิดๆ
แต่พอเห็นรูปนี้ ชอบมากๆ ความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายสตูฯ หายไปจนหมด
จนอดไม่ได้ที่จะต้องหอบหิ้ว มาด้วย
ไม่กล้าใส่ในกระเป๋าเดินทาง เพราะกลัวว่าจะแตก
ก็เลยต้องถือขึ้นเครื่อง และเตือนตัวเองตลอด ไม่ให้ลืมหยิบ

ตอนนี้ มาอยู่ตรงนี้แระ :-)


:-)

หลังจากที่บ่นใน blog ว่า ไม่มีคนต่อโต๊ะให้สักที
ในที่สุด ก็มีคนทนไม่ได้ อิอิ ...



1st day in Boston

เครื่องลงประมาณ หกโมงเกือบครึ่ง เร็วกว่ากำหนด เกือบครึ่งชั่วโมง
รู้สึกว่าไกลมากจาก Sanfran มา Boston หลับๆ ตื่นๆ ไปหลายตลบ ก็ไม่ถึงซะที
แต่ว่าวิวสวยมาก มองลงมาจากเครื่อง เห็นไฟในเมืองสวยดี
เห็นดาวบนฟ้า ด้วย ดูจากบนเครื่องเนี่ย เห็นดาวใหญ่ขึ้นแฮะ (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า)

เดินไปเอากระเป๋า เหลืออยู่สามสี่ใบ เลยหาง่าย ได้กระเป๋ามาแล้ว
ก็เดินออกมาต่อ taxi พอเดินออกจากตึก
โอ๊ยโหย ....... หนาวมากๆ อ่ะ ดีนะที่คุณ pC ให้ใส่ลองจอห์นข้างใน ก่อนออกมา
ไม่งั้นแย่ๆ แน่ๆ เลยอ่ะ กว่าจะขนกระเป๋าขึ้นรถเสร็จ เข้าไปนั่งในรถ
ตัวก็เย็นเจี๊ยบไปแระ

มาถึงบ้าน เอากระเป๋าเข้ามากองๆ ไว้ก่อน
หิวมาก ขอกินก่อนละกัน กินเสร็จ ขอนอนซักประเดี๋ยว

(ทั้งๆ ที่นอนมาบนเครื่องจนเบื่อแล้ว)
ตื่นมาจัดของเข้าตู้ อืม ทำไมรู้สึกว่าของน้อยกว่าที่คิดอ่ะ
ลืมอะไรหรือป่าวเนี่ย ทำไมเอาของมาน้อยจัง ตอนจัดมารู้สึกเหมือนกันเยอะกว่านี้น๊า ???
พอจัดของเสร็จ อาบน้ำ คุณ Pc ชวนไปซื้อของกันดีกว่า จะได้เสร็จๆ
เดินไปเอารถเช่า หนาวมากๆ แต่อีกคนบอกว่า เนี่ย ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่นะเนี่ย :-P
(ก็เค้าไม่ใช่คนแถวนี้นี่ จะได้ชินอ่ะ)

นั่งรถไป อ่านวิธีไป (จาก google) แหะๆ หลงอ่ะ
เลี้ยวไปเลี้ยวมา ไม่ถึงซะที เอาใหม่ ลองอีกทาง
คราวนี้สำเร็จ ไปถึง IKEA เป็นคล้ายๆ HomePro บ้านเรา
ขายเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน เข้าไปก็ตื่นตาตื่นใจดีอ่ะ
เค้าจะแบ่งเป็น show room ที่แสดงของ คล้ายกับการแสดงเฟอร์นิเจอร์ทั่วๆ ไป
จัดเป็นห้อง เขียนราคาแล้วก็รายละเอียดติดไว้ที่เฟอร์แต่ละชิ้น
พร้อมทั้งบอกตำแหน่งว่าเราจะไปหยิบสินค้าได้ที่ไหน ไม่ได้ตั้งไว้ด้วยกันกับที่จัดแสดงให้ดู

แต่ก่อนที่จะเดินดูของ ขอกินก่อนอ่ะ (หิวอีกแล้ว)
มื้อนี้ กินสลัดแซลมอนสด แซนวิซกุ้ง แล้วก็ข้าวหน้าไก่

(จริงๆ ไม่ได้เรียกอย่างงี้อ่ะ แต่รสชาติเป็นข้าวหน้าไก่จิงๆ อ่ะ)
ก่อนกิน อืม... ถ่ายรูปไว้ดีกว่า น่ากินดี พอเอากล้องออกมา จะถ่าย แบตฯ หมด!!!
สงสัยเมื่อวานดูวิดีโอในกล้องนานไปหน่อย ก็เลยอดเลย
กินเสร็จ ก็เดินดูของ มีของแปลกๆ เยอะเลย สนุกดี
แล้วก็ได้โต๊ะมาหนึ่งตัว กะเก้าอี้ ยังกองอยู่เลย ไม่มีคนต่อให้
แงๆๆๆๆๆ อยากใช้เร็วๆ อ่ะ เมื่อไหร่จะต่อให้ซักทีเจ้าคะ :-(

first experience

หลังจากเดินทางมาสิบกว่าชั่วโมง จากกรุงเทพฯ และ transit ที่ไทเป
ก็มาถึงซานฟรานจนได้

เป็นการเข้า USA ครั้งที่สอง
ครั้งแรก เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรนอกจาก รอคิวนาน
กะตื่นเต้นตอนตอบคำถามนิดหน่อย กลัวจะฟังไม่ออก ตอบไม่ถูก

มาครั้งนี้ ก็มาเข้าที่เดิม บรรยากาศเดิม คนเยอะเหมือนเดิม
แต่ .... มันไม่เหมือนเดิมอ่ะ :-(

รอต่อคิวนานมาก พอถึงคิว ก็เดินเข้าไปพร้อมกันสองคน
แล้วก็เริ่มถามคำถาม อืม......
แล้วก็ตอบคำถาม อืม .......
ถามอยู่พัก ก็บอกว่าให้ไปที่อีกห้องหนึ่ง
อืม .... มีปัญหาแล้วล่ะสิ
เดินไปอีกห้องนึง มีคนรออยู่ประมาณ 2 กลุ่ม
เอา passport ไปใส่ไว้ใน queue
รอเรียก ....
หันมามองหน้ากัน ประมาณว่า ถ้ากลับก็กลับด้วยกันนะ (ขำๆ)
นั่งๆรอ ไป ก็มีคนเข็นกระเป๋ามาให้
(คิดในใจว่า เออ ดี แฮะ ไม่ต้องไปเอาเอง
แต่ .... จะโดนให้กลับมั้ยเนี่ย มันเอากระเป๋ามารอเลยแฮะ )

สักพักใหญ่ ก็โดนเรียกเข้าไปในห้องเล็ก
บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย ประมาณว่ามีปัญหาอะไรเนี่ย
จะโดนไล่กลับไหมน๊อ
เริ่มถามคำถามให้ตอบอีก
แล้วก็ต้องตอบคำถามอีก .....

ประเด็น อยู่ที่ status visa ของคุณ pC แปลกๆ
คงโดนทุกครั้งที่เข้าประเทศ :-P
แถมคราวนี้ ยังมีคนติดตามมาด้วย แต่ไม่ยักกะถือ visa ติดตาม
ดันถือเป็น visa ท่องเที่ยว เก๊าะเลยยิ่งแปลกใหญ่
ประมาณว่า ถ้าต่างคนต่างมา ก็คงไม่มีปัญหาอ่ะ :-P
ก็เลยต้องไปสะดุ้งเฮือกๆ ตอบคำถาม ในห้องสัมภาษณ์

อึดใจใหญ่ๆ ทุกอย่างก็เรียบร้อย ได้ stamp มาหกเดือน
แต่ก็โดนขู่ว่า คราวหน้าต้องเปลี่ยน visa type มาให้เรียบร้อย


เฮ้อ โล่งอกไป ออกมา ก็เลย มีคนเดินนำเอากระเป๋าไป load ไป boston
(เดินเองหลงชัวร์)
แล้วก็เดินไป check-in เอา boarding pass
เดินยากเหมือนกันแฮะ ยังดีที่ไม่ต้องเอากระเป๋ามา check-in ใหม่ด้วย
พอจะเข้าไปที่ gate ก็ต้อง scan สัมภาระที่จะเอาขึ้นเครื่อง
ถอดรองเท้า ถอด jacket, notebook ก็ต้องเอาออกมา scan
คล้ายๆ กับคราวก่อน แต่ดูจะ strick กว่าเดิม
พอเข้ามาได้ ก็มานั่งรอหน้า gate

เป็นอันว่า ได้เข้าประเทศมาเรียบร้อยแระ หลังจากตุ๊มๆ ต่อมๆ อยู่พักใหญ่
แล้วก็ได้อยู่หกเดือน เย้ๆๆๆๆๆๆๆ

ว่าแต่ เอ ถ้าชั้นมาคนเดียวเนี่ย ก็ไม่ต้องเข้าห้องสัมภาษณ์หรอก เป็นเพราะใครเนี่ย ?? :-P

ยุ่งๆ

ไม่ได้เขียนอะไรลงใน blog นานมากๆ
คนอ่านคงจะหนีไปหมดแล้ว
ช่วงนี้ยุ่งมาก จนไม่มีเวลา upblog
จริงๆ แล้วไม่มีเวลามานั่งคิดมุข จะเขียน
ขนาดเวลาอ่าน blog โปรด (ที่ติดยิ่งกว่าละครแล้วตอนนี้) ยังไม่ได้อ่านเลย
แถมยังมีคนปิด blog ไม่ให้อ่านซะงั้น อิอิ

ช่วงนี้มีอะไรต้องทำ ต้องคิด มากเสียจริงๆ
และคงยุ่งๆ ไปอีกสักพัก

เอารูปมาฝากดูเล่นรูปนึง เป็นด้านในศาลาร้อยปี วัดราชบพิธ สวยมาก แต่แสงน้อย เลยถ่ายได้ไม่ดี
(จริงๆ แล้วคนถ่าย มะค่อยมีฝีมือ ตะหาก :-P)