วันอาทิตย์

ตื่นนอน แต่เช้า แต่ แหะ แหะ สักพักก็มานอนต่ออ่ะ
กว่าจะตื่นจริงๆ ก็ปาไปเก้าโมงกว่า (แหม ก็วันหยุดจะรีบตื่นทำไม จริงไหม)

โทรไปคุยกับเพื่อน เป็นอีสุกอีใส ตอนอายุจะสามสิบ
อืม ... เป็นช้าจังอ่ะ ตอนเด็กๆ ไม่ติดใครมาบ้างเลยเหรอ
ดีนะเนี่ย ที่เราเป็นแล้ว ไม่งั้นถ้าติดมาแย่เลย
คงไม่กล้าโผล่หน้าไปทำงานหลายวัน
ยังไงก็ขอให้หายเร็วๆ นะจ๊ะ :-P

ออกจากบ้านไปเดินจตุจักร เดินไปเกือบสามชั่วโมง
ร้อนดี ไม่ค่อยได้อะไร เท่าไหร่ แต่ก็บรรลุจุดประสงค์ที่ไปเดินพอสมควร

จากจตุจักร ไปเดินศูนย์ประชุมต่อ ทั้งๆที่แรงไม่มีแล้วอ่ะ
ไปถึงก็มุ่งตรงไปตรงมุมของกินก่อนเลย เห็นอะไรก็น่ากินไปหมด :-P
หลังจากเติมพลัง แล้ว ก็เดินต่อ (อึดจริงๆ)
แต่ก็ได้มาแค่ เจ้าสามตัวเนี๊ย


DeathNote


ไปดูหนังมาฮับ.........
หลังจากที่ตั้งท่าจะไปดูตั้งแต่วันพฤหัสฯ แต่ไปจ่อมที่หัวหินแทน :-P

ตอนแรกไปถึง อ้าว ไม่มี soundtrack อ่ะ มีแต่พากษ์ไทย
แต่... ดูก็ได้ เพราะถึงงัย เก๊าะฟังภาษาญี่ปุ่น ไม่ออกอยู่ดี
ปรากฎว่า พากษ์ได้ฮาดี แต่เล่นเอาฟอร์มลุค เปลี่ยนไปเล็กน้อย
กะเสียง L กับ ไลท์ แยกกันมะค่อยออก

เนื้อเรื่องในหนังไม่ค่อยเหมือนในหนังสือเท่าไหร่
แต่ก็ดี ไม่ได้รู้สึกผิดหวัง แต่กลับรู้สึกว่า
น่าติดตาม ว่า..... แล้วจะจบยังไง


สรุปว่า ชอบ L จังเลย น่ารักมั่กๆๆๆ
(เกี่ยวอะไรกับที่เขียนมาข้างบนเนี่ย)


ป.ล. อ่านกระทู้นึงใน web บอกว่า L ไม่น่าจะตายเพราะ DeathNote หรอก น่าจะตายเพราะน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่า อ่ะ ก็เห็นกินของหวานๆ อยู่ตลอดเวลาซะขนาดนั้น อิอิ :-P



Hua Hin in Bangkok

เมื่อวานหายไป ไม่ได้ up blog
ไม่ได้หายไปไหน
แค่ไปหัวหินเองอ่ะ

แต่ไม่ได้ถ่อไปถึงประจวบฯ แต่อย่างใด
เป็น Hua Hin in Bangkok :-P
เป็นร้านอาหาร จัดได้แบบน่ารักมาก
ตรงกลางเป็นสระน้ำ ไม่เล็กไม่ใหญ่
รอบๆ สระน้ำ จัดที่นั่งๆ สบายๆ ให้บรรยากาศ
บ้านพักต่างอากาศ ได้ดีทีเดียว
เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูป มาสักกะรูป
เพราะมัวแต่นั่งเม้าส์ กับเพื่อนๆ :-P

บางทีความสุข ก็หาได้ง่ายๆ ใกล้ๆ
ไปหัวหิน ที่ไม่ต้องไปถึงประจวบฯ ก็ได้เหมือนกัน :-)

พักกลางวันที่รอคอย

วันนี้ ไป train เป็นวันที่สาม
หลับๆ ตื่นๆ เหมือนทุกวัน เมื่อไหร่จะพักกลางวันนี่
เที่ยงก็แล้ว .........................................
เที่ยงสิบห้า ก็แล้ว..............................
เที่ยงครึ่ง แล้วน๊า................................
เที่ยงสี่สิบห้า

คนสอน "ไป break ก่อนละกันครับ เดี๋ยวค่อยมาต่อ"

เฮ้อ ได้พักซะที :-(

พักกลางวัน ไปเดินเล่นที่โรบินสัน สีลม
มีเสื้อหนาวสวยๆ เต็มเลย
อยากได้ๆ อ่ะ สวยไปหมด
ตัวนั้น ก็สวย ตัวนี้ก็น่ารัก
เลือกไม่ถูก ไม่รู้จะซื้อแบบไหนดี

สุดท้าย.............. ก็เลยไม่เสียตังค์ อิอิ

Pronunciation :-P

วันนี้เรียนภาษาอังกฤษ
benny (ครูสอน) ให้เลือกข่าว แล้วแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม
กลุ่มนึงผลัดกันอ่าน แล้วอัดเสียงลงเทป
แล้วก็แลกกะกลุ่มอื่นไปฟัง แล้วเขียนออกมา
ปรากฎ เละ!!! คับ

ขนาดพูดกันต่อหน้า ยังฟังกันไม่ค่อยออกเลย อิอิ
แล้วให้ฟังผ่านเทป ที่ชัดมั่กๆๆๆๆ

ก็แค่ เรื่องเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงปานกลาง บางแห่งก็มากหน่อย ก็เท่านั้นเอง

วันเหงา เหงา

วันนี้ต้องไปเรียน......................คนเดียว
กินข้าวกลางวัน.......................คนเดียว
เดินไปขึ้นรถเมล์......................คนเดียว
ไปเล่นฟิตเนส.........................คนเดียว
แล้วก็เดินดูของ.......................คนเดียว

เหงาอ่ะ

ป.ล. วันนี้ใส่ contact lens เข้าห้อง stream กลัวมันละลายติดลูกกะตาจัง

Team Building

วันก่อน (วันศุกร์) สงสัยว่า
ไป Team Building (ไปทำอะไรอ่ะ??)
จนกลับมา ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำอะไร
ที่แน่ๆ เค้าบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ

แต่หนึ่งในสิ่งที่ทำ :-P




วันศุกร์ (วันสุข)

วันศุกร์ สำหรับใครๆ มักจะเป็นวันสุข เพราะ พรุ่งนี้จะเป็นวันเสาร์
ได้หยุดนอนอยู่บ้าน ไม่ต้องรีบตื่นมาทำงาน

แต่ !!!! วันศุกร์ นี้ ออกจะสุกมากไปหน่อย สุกจะไหม้แล้วอ่ะ

เริ่มแต่เช้า ระบบไม่สามารถแสดงข้อมูลได้
ไอ้เรา ก็อุตสาห์รีบหาว่า เกิดอะไรขึ้น มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
หรือ resource ไม่พอ
สุดท้าย ...................... กลับกลายเป็นว่า
ระบบมีการติดตั้งระบบทำลายตัวเอง (ประชด แต่เรื่องจริง) ลบข้อมูลทิ้งซะเฉยๆ
PM (Project Manager) ที่ดู application ตัวนี้ บ่นว่า
"มันเกลียด PM เลยหาเรื่องทำลายตัวเองซะ 555"
เดือดร้อน ต้อง restore ข้อมูลใหม่
(ดีที่ว่า ไม่ต้องทำ เป็นอีกทีมนึงทำ โชคดีจิงๆๆ)

ตามมาด้วยปัญหา ระบบที่จะขึ้นใหม่วันนี้
เป็นระบบที่ออกจะพร้อมมั่กๆ มีปัญหาทุก step
จะขึ้นวันนี้ UAT เพิ่งจะผ่านเมื่อวาน
Load test ยังไม่ผ่าน เฮ้อ เอ้า อยากขึ้น ก็ให้ขึ้นค่ะ
ใครจะไปกล้าขัด ฟ้าสั่งมา ขนาดนั้น
ก็ขึ้นด้วยความทุลักทุเล

ตกเย็นมีเรียน รีบเผ่น ทิ้งปัญหาไว้ให้น้อง
ช่วยตัวเองไปกันก่อนนะคะ

หลังเลิกเรียน มี call ทุกๆ สิบนาที

กลับถึงบ้าน รีบจัดกระเป๋า ไป Team building (ไปทำอะไรฟะ) ที่กาญจน์
!!! จะเที่ยงคืนแล้วอ่ะ พรุ่งนี้นัด 6:30 จะตื่นมั้ยเนี่ย !!!!

Working Mode

วันนี้งานชุกชุมดีมาก ทั้งที่ใกล้สิ้นปี ทำไมช่างมีระบบพร้อมใจกันขึ้นเช่นนี้
แล้วก็เลยเพิ่งได้สังเกตุพบว่า ตัวเองมี Mode การทำงาน 2 Mode

1. Normal Mode
เป็นการทำงาน แบบปกติ ทำไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ทำตามแบบฉบับ System Admin
ทั้งยังย้ำคิดย้ำทำ เพื่อป้องกันการผิดพลาด ให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด

2. Speed up Mode
เป็น Mode การทำงาน ที่ต้องการได้ผลลัพธ์ หรือชิ้นงานในเวลาอันจำกัดมากๆ
จะคิดเร็วทำเร็ว แต่เนื่องจากทำกับ production ก็เลยต้องให้ความระมัดระวังและ
ยอมให้เกินความผิดพลาดไม่ได้เช่นกัน จึงต้องใช้พลังงาน มากกว่าปกติ หลายเท่า

วันนี้เวลาจำกัด งานเยอะ เลยต้องใช้ speed up mode
ตกเย็นแบตฯ เลยหมดคับ

zzzzzzzzzzzzzzzzzz
ไปนอนชาร์ตแบตฯ ดีก่า
zzzzzzzzzzzzzzzzzz

วันจันทร์

จะสี่ทุ่มแล้ว แล้ว ยังนั่งอยู่ที่ทำงาน
และยังไม่รู้ว่า เมื่อไหร่ จะได้กลับบ้านเสียที แงๆๆๆๆๆๆๆ

เที่ยวงานวัด # 2


ตามอ่าน เที่ยวงานวัด#1 ก่อนได้ค่ะ

หลังจากที่ชมการแสดงแสงสี ณ บริเวณพระอุโบสถแล้ว
มาถึงภูเขาทองทั้งที จะไม่ขึ้นไป ก็เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
ทางเดินเป็นบันได ขั้นเล็กๆ เดินง่าย ไม่ต้องปีนให้ลำบากมากมาย
เดินพอเหนื่อย ก็ขึ้นถึงด้านบนค่ะ

ภูเขาทอง เมื่อมองจากบริเวณพระอุโบสถ


ด้านบนสามารถมองเห็นพระบรมมหาราชวัง ตลอดจนสถานที่สำคัญหลายแห่ง
ลมก็พัดเย็นสบาย วิวก็สวย ทีเดียว

ชมวิวจนพอใจ ก็ถึงเวลาเดินเที่ยวงานวัด (พลาดไม่ได้)
มีทั้งม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ ยิงปืน โชว์แปลก
อีกร้านอาหาร และร้านขายของมากมาย






เดินวนรอบ P' Moo+ ก็ลากเข้าไปกินขนมจีน อร่อยเหมือนกัน แต่แพงไปนิด
กินเสร็จ เฮ้อ!!! เหนื่อยแระ กลับบ้านดีกว่า
:-)

เที่ยวงานวัด # 1

วันอังคารนัดกะ P' Moo+ จะไปถ่ายรูปงานวัดภูเขาทอง
แต่ .... กว่าจะได้ออกจาก office ได้ก็ปาเข้าไปหกโมงก่าๆ
เพราะ งานไม่เสร็จ แหะๆๆๆ
ไม่ได้การ เผ่นก่อนดีกว่า ให้ลูกค้าด่า ดีกว่า P' Moo+ ด่าเยอะเลย

กลับมาถึงบ้าน หาอะไรกิน (ตุนไว้ก่อน หิวจะตายอยู่แล้ว)
ยังไม่ทันได้กิน P' Moo+ ก็กลับมาถึง เลยต้องรีบกิน
เพราะมีคน เร่งๆๆๆๆๆ

เดินออกมา รถเมล์สายไหนผ่านล่ะเนี่ย
อย่ากระนั้นเลย ไปตุ๊กๆ ดีกว่า
ถึงหน้าวัดเลย (มาเอง หลงแหงมๆ)

มุ่งหน้าไปที่อุโบสถ มีงานแสดงแสงสี สวยดี แต่ดูไม่รู้เรื่องอ่ะ
ภาษาฟังยากไปนิดนึง แต่ก็ ok

เลยเอารูปพระอุโบสถ มาฝากก่อน







ไว้พรุ่งนี้ จะเอาบรรยากาศ "งานวัด" มาฝากค่ะ

ทะ-เล

ได้มีโอกาสไปทะเล กันแบบฉุกละหุก กับเพื่อนๆ เก่ามากๆ เลยเก็บภาพทะเลๆ มาฝากกัน




Pathway


ทางเดินมีให้เดิน แต่การก้าวออกเดินไปในเส้นทางใหม่ มันดูจะยากเสียจริงๆ
ทั้งๆ ที่ไม่ได้กลัวว่า ทางข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
อาจจะเพราะมันก็ไม่รู้อยู่ดี ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอะไร
แต่หนทางเก่า มันไม่ค่อยน่าเดินซักเท่าไหร่
หากแต่มันก็เป็นความเคยชินเสียแล้ว ที่จะเดินไปในทางนั้น
อุปสรรค ขวากหนาม ก็รู้แล้วว่าจะต้องหลบหลีกอย่างไร
ฉันจะเลือกเดินทางไหนดี .....

เมื่อไหร่ ที่จะกล้าก้าวออกเดินในเส้นทางใหม่ ละทิ้งหนทางที่เคยชินไปได้
ฉันอยากได้กำลังใจ และคนที่จะเดินไปพร้อมกัน
มันคงดีกว่า ที่จะต้องอยู่บนทางที่เคยชิน แต่เดินคนเดียว
ถึงแม้ว่าทางใหม่อาจจะไม่ดี แต่ถ้ามีคนเดินไปด้วยกัน ฉันจะกลัวอะไร .....

ณ อัมพวา (ตอนที่ ๕ ตอนจบ)

กะไว้ว่าจะเขียนเรื่องอัมพวา เป็นตอนสุดท้ายค่ะ
เพราะคนอ่านเริ่มแซว แล้วว่า ไปสองวันเอง เอามาเขียนได้ตั้งหลายวัน

หลังจากนั่งเล่น นอนเล่น ถ่ายรูป ยามเช้า แล้ว
เกือบเที่ยง เราก็ออกจาก "บ้านไม้ชายคลอง"
คนที่นั่นใจดี แนะนำที่เที่ยวให้เรา หลายที่
ที่แรกที่ไปคือ "วัดบางกุ้ง" ที่มีโบสถ์ปรกโพธิ์ เป็น UNSEEN THAILAND ด้วย
แปลก สวย ดูขลังดี เลยต้องเก็บรูปมาฝาก






ถ่ายรูปเสร็จ ก็เข้าไปไหว้พระ ปิดทองค่ะ สามารถขึ้นไปปิดทองบนองค์พระด้านในได้

ทำบุญเสร็จแล้ว ก็ไปทำทานกันต่อ ไปเลี้ยงปลา ที่ท่าน้ำวัด
ปลาเยอะดี แต่แดดร้อนไปหน่อย เพราะตอนไปถึงตอนบ่าย
แล้วก็ขับรถเที่ยว พยายามจะหาสะพานข้ามไปอุทยาน ร. ๒
แต่ปรากฎว่าหลง หาไม่เจอ ประกอบกับ เริ่มจะเหนื่อยกันแล้ว
เลยกลับกันดีกว่า ไว้คราวหน้ามาหาใหม่
เราก็เลยมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ กัน
พร้อมกับตั้งใจว่า พอเริ่มจะหนาวๆ เราจะกลับมาเยือน "อัมพวา" อีกที




Where 're TANKs ?

เสาร์นี้บังเอิญขับรถไปแถวราชดำเนิน เลยแวะเข้าไปดูรถถังกะเค้าบ้าง
แต่ไม่ได้ลงไปดูใกล้ๆ ได้แต่ขับรถโฉบๆ ไม่ได้พกกล้องมาด้วยอีกตะหาก
เลยได้แต่ถ่ายด้วยกล้องมือถือบนรถ ด้วยความที่มืด ก็เลยยิ่งไม่ชัดเข้าไปใหญ่

วันอาทิตย์ไปใหม่ค่ะ เผอิญว่าต้องผ่านไปแถวนั้นอีกเหมือนกัน คราวนี้เตรียมตัวมาดี
(จริงๆ P' Moo+ เป็นคนเตรียมอ่ะ) เอามาทั้งกล้อง และขาตั้งกล้อง
แต่ ........... รถถัง หายไปแล้วอ่ะ !!! แงๆๆๆๆๆๆ

เลยได้สองรูปมาแทน




ณ อัมพวา (ตอนที่ ๔ ยามเช้า)


อ่านตอนก่อนหน้านี้ ได้ ที่นี่ ค่ะ

หลังจากค่ำคื่นที่เต็มไปด้วยความสุขจากการเที่ยวชมตลาดน้ำอัมพวา และตามไปดูหิ่งห้อยเกาะต้นลำพู ราวกับต้นกัลปพฤกษ์ สวยงามจับตา คืนที่แสงจันทร์สว่าง แต่ดาวกลับเต็มท้องฟ้า มิได้กลัวว่าแสงของจันทร์จะบดบังรัศมีของดาวเลยสักนิด ตักตวงความสุขเก็บไว้ฝันต่อไป

เช้าแล้ว ตื่นขึ้นมา มองไปนอกหน้าต่างเห็นคนมาออกันเต็มท่าน้ำ เอ สงสัยว่าทำอะไรกันนะ
ว่าแล้วก็ส่งลูกกระจ๊อก ไปสืบข่าว ได้ความว่า เค้ารอใส่บาตรกัน อืม เกือบตื่นไม่ทันแน่ะ
เรือที่มาขายของเป็นเรือขายขนม เลยได้ซื้อขนมใส่บาตรกัน

สักพัก พระก็พายเรือมารับบาตร ช่างเป็นยามเช้า ที่น่าสุขใจและอิ่มบุญ




ใส่บาตรเสร็จก็ไปอาบน้ำ มาเก็บภาพบรรยากาศยามเช้า สบายตาและสุขใจไม่แพ้ยามค่ำคืนทีเดียว


ฟ้าและน้ำ ที่ดูแตกต่าง แต่กลับมองเห็นสิ่งเดียวกัน


ดอกไม้ ไม่มีตอนไหนจะสวยเท่า ยามเช้า

ปิดท้ายด้วย ทิวทัศน์ริมฝั่งคลอง กับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า

Coup Effect

หายไปหลายวัน ไม่ได้ up blog เลย ปล่อยให้ P' Moo+ แซง up ไปก่อน ต่อให้ก่อนหรอกน่า แต่ที่หายไปเนื่องจากว่า สภาพร่างกายไม่เป็นใจ ไม่รู้ว่าเป็นผลกระทบจากการปฏิวัติ หรือเปล่า เพราะเป็นหลังจากคืนวันปฏิวัติพอดี อิอิ

มีอาการอาหารเป็นพิษครบถ้วนทุกอาการ แถมหนักหนาสาหัส มีผลทำให้ไม่ได้ปฏิบัติราชการ (เอ้ย ไปทำงาน) สองวัน รวมกับวันหยุดราชการอีกหนึ่งวัน เสาร์อาทิตย์อีกสองวัน รวมเบ็ดเสร็จห้าวัน ที่นอนอยู่บ้าน

พอบอกใครๆ ว่าอาหารเป็นพิษ ทุกคนก็ต้องถามว่า "ไปกินอะไรมาล่ะ"
โธ่ ถ้ารู้ว่ากินอะไรแล้วเป็น จะกินทำไมล่ะ ก็เลยต้องตอบไปว่า "ไม่รู้อ่ะ"

พอวันแรกที่มีอาการ เย็นก็ไปหาหมอ พอบอกว่าท้องเสีย โน่น โดนนอนบนเตียงลากเข้าห้องฉุกเฉินไปเลย (ช้านเป็นหนักขนาดนั้นเลยเหรอ) แปลกดี คือไม่ต้องเดินไปหาหมอ ให้หมอเดินมาหาเรา ดี แต่แปลกๆ อ่ะ นอนในห้องฉุกเฉินซักพัก ก็มีคนมาวัดไข้ วัดความดัน ก็แปลกอีก ทุกอย่างปกติไข้ไม่มี ทั้งๆที่ก่อนออกจากบ้านวัดไข้ได้ตั้ง 38 องศา อ่ะ

สักพักหมอก็มา จับโน่น ฟังนี่ แล้วก็ถามว่าไหวป่ะ ไม่ไหวก็นอนให้น้ำเกลือ ใครจะบอกว่าไม่ไหว ยังกะนอนโรงพยาบาลมันสนุกนักนี่ นอนบ้านดีก่า ไม่โดนพยาบาลปลุกทั้งคืน (แต่หลังจากกลับไปบ้าน พบว่า โดนที่ทำงานปลุกทั้งวัน ฮา....)

แล้วก็โดนฉีดยาไปอีกหนึ่งเข็ม เจ็บอ่ะ นอนดูอาการสักพัก หนาว ไม่ไหว โรงพยาบาลนี้ แอร์หนาวชะมัด กลับบ้านดีกว่า

แล้วก็มานอนแบ็บที่บ้านอีกสามวัน เมื่อไหร่จะหายเนี่ย อยากกินส้มตำอ่ะ :-P

ช้อป ๆ

วันนี้โดนปลุกแต่เช้า ทั้งๆ ที่เพิ่งนอนไปตอนตีสามกว่าๆ เอง
P' Moo+ จะเอา Jinwin+ ไปพ่นกันสนิม ที่ศูนย์ฮอนด้า สมุทรปราการ
ไปถึง ฟลุ๊คมาก ได้แซงคิว ทำก่อน เที่ยงก็เลย เสร็จแระ

เอ... ไปไหนดีหว่า

ตอนแรก จะไปร้านขายรองเท้าเดินป่า (ที่มาขายที่ศูนย์ประชุม แล้วไม่มี size เราอ่ะ ความเดิม)
อยู่แถวๆ บางนา แต่หาไม่เจอ :-P เลยอดตามเคย

สุดท้ายก็เลยไปเดิน fortune ดีก่า ว่าจะไปดูของใน sport world

ไปถึง เดินผ่านร้านขายคอมหลายร้าน เลยได้ หูฟังกะไมค์ ใหม่มาคนละอันกะ P' Moo+
แล้วก็ได้ซองใส่ Notebook อีกคนละซอง อิอิ ก่อนลงไป sport world

เดินดูกางเกงกีฬาใน sport world ยังไม่ปิ๊ง ตัวไหน
P' Moo+ ก็มาลากไปดู ถุงนอน !!
ไม่ใช่ถุงนอนทำ-มะ-ดา แต่เป็นถุงนอนขนเป็ด แพงอ่ะ แต่นุ่มดีแฮะ
ดูๆ ไปก็เข้าที เพราะพับแล้วเล็กดี น้ำหนักประมาณ 600 g น่ารักซะ
เอาละ ซื้อดีก่า ลดเยอะเหมือนกัน เลยตัดสินใจซื้อคนละอัน
แต่ปรากฎว่า ตรงสายรูดปิดตรงหน้า มีปัญหาอ่ะ มีดีแค่อันเดียว
คนขายเลยบอกว่าให้มาซื้ออีกอันพรุ่งนี้ละกัน เราสองคนก็เลยบอกว่า
งั้นมาซื้อทีเดียวพรุ่งนี้สองอันละกัน
ว่าแล้วก็ไปหาข้าวกิน
สรุป เลยไม่เสียตังค์แฮะ (ว่าแต่พรุ่งนี้จะไปซื้อมั้ยเนี่ย P' Moo+ )

ณ อัมพวา (ตอนที่ ๓ ค่ำแล้ว)

มืดแล้ว แต่ตลาดน้ำอัมพวา กลับเต็มไปด้วยแสงไฟ
คนกลับคึกคักมากขึ้น อากาศกำลังเย็นสบาย

เดินข้ามสะพานมาเพื่อจะไปยังอีกฝั่งของคลอง
วิวจากบนสะพาน มองไปทางออกแม่น้ำแม่กลอง

ข้ามมาถึงอีกฝั่ง ร้านค้า ดึงดูดลูกค้า ด้วยแสงไฟอบอุ่น

ชวนมอง ดูมีเสน่ห์ ให้ต้องแวะชม

แสงไฟ ต้องกับสินค้า ต้องตาคนเดินผ่าน

ปิดท้าย ด้วยหน้าร้าน น่านั่ง ปล่อยอารมณ์ ไปกับความงามของลำน้ำยามค่ำคืน

ณ อัมพวา (ตอนที่ ๒ ภาคตลาดน้ำยามเย็น)

พอห้าโมงจะครึ่ง เรือก็มารอเราอยู่แล้ว
จาก "บ้านไม้ชายคลอง" นั่งเรือไปแป๊บนึง ก็ออกแม่น้ำแม่กลอง
ข้ามไปอีกฟากของฝั่งแม่น้ำ ก็จะเจอกับตลาดน้ำอัมพวา
เรือจอดให้เราลงเดินตลาดน้ำเล่น นัดว่าจะมารับตอนสองทุ่ม
มีเวลาเดินร่วมสองชั่วโมง จึงไม่ต้องรีบร้อนอะไร
ก่อนอื่นก็เลยสำรวจทางฝั่งด้านที่เรือจอดก่อน
มีร้านขายของมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของกินได้
คนมาที่นี่ทุกคน ยิ่งถ้าเป็นคนชอบชิมแล้วด้วย
ก็จะหาความสุขจากตลาดน้ำอัมพวา ได้ไม่ยากเลย ...

พันท์สีสวย ชื่อแปลกหู ชวนให้ลิ้มลอง

ขนมแปลกตา เป็นวุ้นในเปลือกไข่ มีทองหยอดเป็นไข่แดงอยู่ข้างใน
เห็นแล้วอดใจ ไม่ซื้อไม่ได้ :-)

ร้านขาย Postcard ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

ร้านขายน้ำหวานสีสันละลานตา ล่อใจให้ลองชิม

ปิดท้ายด้วย ป้ายบอกทาง ที่ทุกคนต้องเหลียวมอง และอดไม่ได้ ต้องเก็บภาพมา



ป.ล. ความสุขยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ติดตามตอนต่อไปนะคะ

คิดถึง

ปล่อยความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
ล่องลอยหัวใจสะอาด ปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงาพัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใคร คนที่รอคนนั้น
...
ส่งความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
คิดถึงใจจะขาด เธออาจไม่เข้าใจ
แค่อยากให้รู้ ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
เธอไม่ต้องคืนใจ ถ้าเธอไม่ต้องการ
...
ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป
ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา
...
หากเพลงคิดถึงที่ปลิวไปในอากาศ
เพียงถ้ามันพลั้งพลาด ไปไม่พบเธอ
ให้บทเพลงนี้ล่องลอยไปเสมอ
รอสักวันที่เจอ คนที่เขาต้องการ

ณ อัมพวา (ตอนที่ ๑)

วันหยุด อาทิตย์นี้ วันดี ไปเที่ยวกันดีกว่า :-P
P' Moo ไม่ต้องทำงานด้วย ไปไหนกันดีน๊อ
สุดท้าย ก็มาลงตัวที่ อัมพวา ไปดูหิ่งห้อยกัน
โทรจองบ้านพัก โชคดีจริงๆ ได้บ้านริมน้ำ หลังสุดท้าย
เราก็เลยได้มาพัก "บ้านไม้ชายคลอง" กัน
ออกจากกรุงเทพ แวะทำธุระโน่นนี่ ก็ปาเข้าไปเกือบบ่าย
มาถึงที่พัก ก็เกือบจะบ่ายสาม
แดดยังไม่ร่ม แต่มีลมจากคลอง ทำให้ไม่ร้อนเท่าไหร่
ที่พักน่ารักมาก มีระเบียงไม้ ให้นั่งเล่นนอนเล่น
เก็บของเสร็จ ก็ต้องมาบันทึกภาพ เก็บไว้ดู



พอแดดร่ม ก็ออกไปพายเรือในคลองเล่น ได้เหงื่อเหมือนกัน
เล่นเอาตัวเปียกไปเกือบครึ่งตัว
....
...
...
ขึ้นมานั่งพัก ถ่ายรูปต่อ





นัดเรือเอาไว้ตอนห้าโมงครึ่ง จะมารับเราไปเดินตลาดน้ำอัมพวากัน

โปรด ติดตาม ตอนต่อไป

ป.ล. ชมภาพนางแบบโฆษณาตลาดน้ำ ได้ที่นี่ :-)


ผิดหวัง

P' Mooโทรมาตั้งกะเที่ยงว่า วันนี้มีงานท่องเที่ยวที่ศูนย์ประชุม
มีร้องเท้าเดินป่าขายด้วยแหละ สีสวยดี
ประมาณว่า ไปลองมาแระ เรียบร้อย ตอนเย็นให้เราไปลองดูสิ จะได้ซื้อด้วยกัน

เลิกงาน อุตสาห์ไม่ไป fitness ลงทุนซ้อนมอเตอร์ไซด์พี่ที่ทำงาน
(แบบไม่มีหมวกกันน๊อก อีกแระ แถมคนขี่เพิ่งไปสอยหูช้าง city มาตอนเช้าอีกตะหาก)
มาศูนย์ประชุมเลย

ไปถึงร้าน แงๆๆๆๆ มันไม่มีเบอร์เราใส่อ่ะ (เท้าไม่มาตรฐานจิงๆ )
แถมเบอร์เล็กสุดที่เค้าทำ ก็ยังใหญ่ไป เฮ้อ แต่ก็ไม่มีเบอร์เล็กสุดให้ลองอยู่ดี
อุตสาห์มาตั้งไกล เสี่ยงชีวิต เสี่ยงตำรวจอีกตะหาก แงๆๆๆๆๆ
ผิดหวังจิงๆ อ่ะ

เลยซื้อเสื้อกะกระเป๋า เพื่อบรรเทาความผิดหวัง
แต่... มันก็ยังไม่หาย แงๆๆๆๆๆ

ป.ล. อิจฉา
P' Moo มีร้องเท้าใหม่อ่ะ ไม่ยอม ไม่ยอม

บริจาค...ที่ศิริราช

วันนี้ ไปบริจาคเงินช่วยผู้ป่วยยากไร้ ที่โรงพยาบาลศิริราชมา
เห็นรูปนี้ อยู่ในตึกที่รับบริจาค สวยดี เลยขอเจ้าหน้าที่ถ่ายมา



ป.ล. ถ่ายด้วยกล้องมือถือ เหมือนเดิมอ่ะ (เลยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่)

ตื่นตา...ตื่นใจ...

วันเสาร์ ไม่มีงานอะไร ตื่นเช้ามา P' Moo+ พยายามลากไปกินซิสเลอร์ ที่ Central World
แต่กว่าจะได้ออก ไปถึงก็เกือบจะเที่ยง
เลยต้องรอคิว ระหว่างรอ ขอวนดูห้างใหม่สักนิด
อืม... แต่งใหม่สวยดี มีอะไรแปลก น่าถ่ายรูป
แต่ไม่ได้เอากลัองมา มีแค่กล้องมือถือ
ก็เลยเก็บมาฝากได้เท่านี้









ป.ล. ต้องหาเวลาไปเดินเล่นแล้วซิ :-P

“ความรัก” ที่ท่านเรียก .. ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

กริ๊ง...งงง
"ท่านคะ มีคนจะขอเรียนสายค่ะ"
"ใครครับ"
"เขาบอกว่าชื่อ 'ความรัก' ค่ะ"
"บอกว่าผมงานยุ่งครับ"
"ค่ะ....."

เวลาผ่านไป
"ท่านคะ 'ความรัก' ขอสายท่านค่ะ"
"อือ...บอกว่าผมไม่สะดวกครับ"
"ค่ะ...."

ผ่านไป...อีก
"ท่านคะ คุณ.."
"ความรักอีกแล้วใช่ไหมครับ บอกว่าผมงานยุ่ง ไว้ผมจะ..."
"ไม่ใช่ค่ะ! มีคนจะคุยเรื่องงานค่ะ"

ในวันที่หัวสมองและหัวใจว่าง ว่าง ว่าง ...
you have 1 message in your mailbox
please call... Good bye ค่ะ
sendor : ความรัก


"ช่วยต่อสายความรักให้ผมหน่อย"
"ค่ะ..."

ความรักที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
กรุณาฝากข้อความหรือหมายเลขโทรกลับ


"ติดต่อไม่ได้ จะให้ฝากข้อความไหมคะ"
"....... ไม่ต้องครับ"

เหงา.... เวลาผ่านไป
ความรักที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
กรุณาฝากข้อความหรือหมายเลขโทรกลับ

"ความรักครับ คือผม... เห็นคุณหายเงียบไป ไม่รู้ว่าสบายดีไหม
ช่วงก่อนหน้านี้ผมงานยุ่งตลอด ไม่มีเวลาว่าง
ต้องขอโทษด้วย ไม่รู้ว่าจะสายเกินไปไหม ถ้าจะบอกว่า
ผม... พร้อมที่จะมีความรักแล้ว
ถ้าได้รับข้อความนี้ช่วยติดต่อกลับด้วยนะครับ"

รอ... รอ... รอคอยความรักจนวันนึง
"ท่านคะ เอ่อ ความรักโทรมา จะให้ปฏิเสธไปเลยไหมคะ"
"รีบโอนสายมาเลยครับ ! "

"สวัสดีครับ คุณหายไปไหนมา ขอโทษด้วยครับ
ที่ผมไม่มีเวลาใส่ใจ ไม่เคยสนใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิต
ผมขอโทษ ผม ผม ผม..."

"ฉันไม่ได้โกรธอะไรหรอกค่ะ ไม่ว่าจะอย่างไร
ความรักอย่างฉันก็มีหน้าที่ให้ความรักเสมอ
เมื่อใดก็ตามที่คุณเปิดใจต้อนรับ
เมื่อนั้นคุณก็จะได้เป็นเจ้าของความรัก
แต่ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ติดต่อ ก็เพียงเพราะว่า...
ฉันไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์ค่ะ !!!"

เงินมีคุณค่าเสมอแม้กับความรัก . . แต่อย่าให้ถึงขนาดว่าความรักถูกชื้อได้ด้วยเงิน


รับน้ำอะไรดีคะ ...

สารพัดเครื่องดื่มที่เราหรือเค้าชอบนั้น ก็สามารถบอกถึงนิสัยใจคอได้ เป็นอย่างดี คุณล่ะ ชอบดื่มน้ำอะไร...


ชอบดื่มน้ำอัดลม
คนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมต่างๆ เป็นชีวิตจิตใจ ประเภทไปไหนก็ต้องเรียกหาแต่โค้กนั้น เป็นคนที่ทำตามใจตัวเองมาก ไม่ค่อยสนใจใคร ใครจะคิดอย่างไรก็ไม่เคย จะเก็บมาคิด ให้รกสมอง เป็นคนรักอิสระมาก ไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์ต่างๆ เป็นคนที่ใส่ใจหาความรู้ ต่างๆใส่ตัว ยิ่งเรื่องที่ต้องใช้สมองไตร่ตรองเยอะๆ อย่างศาสนาหรือปรัชญายิ่งชอบใหญ่

ชอบดื่มน้ำหวาน
คนที่ชอบดื่มน้ำหวานนั้นเป็นคนรักสันติ ไม่ชอบวีนใคร หลีกเลี่ยงการทะเลาะกับผู้อื่นแบบสุดๆ เป็นคนที่ชอบมีการงานที่มั่นคง ไม่ชอบความเสี่ยง ไม่เบื่อหน่ายที่จะต้องทำอะไรซ้ำซาก ไม่ชอบวุ่นวายกับคนอื่น แต่เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี เอาใจใส่ผู้อื่น รู้จักพอ ไม่ตะเกียกตะกาย ไม่ทะเยอทะยาน คนแบบนี้จึงมีความสุขด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

ชอบดื่มไวน์
เครื่องดื่มที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน ความชื่นชมในรสชาติอย่างไวน์นั้น คนที่ชอบดื่มเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ชอบเข้าสังคม ชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ เป็นคนที่มีรายละเอียดในชีวิตมาก ชอบสร้างกฎให้ตัวเอง มีระเบียบแบบแผนในชีวิต เป็นคนที่มีความเชื่อในเรื่องลึกลับเป็นคนที่ค่อนข้างหัวเก่า ยังคงยึดถือขนบธรรมเนียม บางอย่างอยู่

ชอบดื่มน้ำชา
ชานั้นเป็นเครื่องดื่มที่ผู้รักรสชาติของชาจะรับรู้ได้ถึงความละมุนละไม ผู้ที่ชอบดื่มชา จึงเป็นคนที่มีจิตใจละเอียดอ่อน ชอบใช้ชีวิตอย่างรื่นรมย์ เป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ของชีวิตให้ความสำคัญกับมิตรภาพมาก เป็นคนที่ผู้อื่นอยากอยู่ใกล้ เพราะเข้าอกเข้าใจคน ไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง เป็นคนไม่ยอมคน แต่ไม่ชอบทะเลาะกับใคร จึงหาทางแก้ปัญหาต่างๆด้วยหนทางสันติ

ชอบดื่มเบียร์
เครื่องดื่มที่แสนจะแมน และเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของผู้ชายแทบจะทุกคน ถ้าใครโปรดปรานแสดงว่าเป็นคนที่มีชีวิตชีวามากชอบแสวงหา ความบันเทิงเริงใจให้ชีวิต ไม่เก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆมาเครียด เป็นคนรักอิสระและรักการผจญภัย เป็นคนค่อนข้างใจร้อน อยากจะทำอะไรต้องทำเลย หรือถ้าอยากจะได้อะไรก็ต้องทำทุกอย่างให้ได้มา ที่ต้องระวังคือทำอะไรลงไปมักไม่ค่อยคิด มักจะมีผลเสียตามมาอยู่เรื่อย



ชอบดื่มกาแฟ
คนที่ขาดกาแฟแล้วเหมือนจะขาดใจ มักเป็นคนที่ทำอะไรต้องให้ดีที่สุด เป็นคนที่ชอบความเป็นระเบียบ แถมยังเป็นคนที่ตรงไปตรงมาทำอะไรอย่างจริงจัง จึงทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ ถ้าใครได้เป็นลูกน้องละก็จะเป็นเจ้านายที่โชคดีสุดๆ ทั้งยังเป็นคนที่คาดหวังในสิ่งต่างๆไว้สูง และพยายามจะทำสิ่งที่หวังนั้นให้เป็นจริงขึ้นมา

ชอบดื่มเหล้า
คนที่ชอบดื่มน้ำเมา ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ บรั่นดี ว้อดก้า เป็นคนที่ใจกว้างรักสนุกชอบความบันเทิง เริงรมย์ทั้งปวง เป็นคนที่การสังสรรค์กับผู้อื่น มีคนรู้จักมากมาย แต่ก็จะเลือกคบเพื่อน จะคบแต่เฉพาะคนที่สนิทใจกันเท่านั้น เป็นคนอ่อนโยน ใส่ใจผู้อื่น มีข้อเสียอยู่นิดเดียว ตรงที่ทำอะไรไม่รอบคอบ ไม่ค่อยใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ จึงทำให้งานบางอย่าง ที่ทำพลาดอย่างไม่น่าจะพลาดได้

ชอบดื่มสารพัดน้ำ
คนที่ไม่ได้ปลื้มเครื่องดื่มชนิดใดเป็นพิเศษนั้น เป็นคนที่ค่อนข้างจะอ่อนไหว เห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นคนที่ยินดีจะให้ความช่วยเหลือกับเพื่อน โดยไม่ลังเลใจ จึงมีแต่คนรักและอยากอยู่ใกล้ เป็นคนที่ค่อนข้างหลงใหลในสิ่งต่างๆได้ง่าย เพราะความอ่อนไหวของตัวเอง แต่หลงได้ไม่นานเดี๋ยวก็เบื่อ เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ชอบอยู่บ้าน อยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ค่อยชอบออกไปสังสรรค์กับผู้อื่นนัก

งานแต่งงาน ....

อ๊ะ... อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ยังไม่ได้ประกาศแต่งงาน หรือว่าเข้าพิธีแต่งงานแต่อย่างใด เรื่องมีอยู่ว่า ได้มีโอกาสไปงานแต่งงานของพี่ที่ทำงาน เป็นงานค๊อกเทล ภาษาไทย จะระบุไว้ว่า "งานเลี้ยงรับรอง" (มันแปลได้ตรงไหนว่าเป็นงาน "ค๊อกเทล" อ่ะ) คนส่วนใหญ่ก็เลยไม่รู้ว่างานที่จะจัดเป็นแบบไหน

เข้าไปในงาน ก็มีถ่ายรูปหน้างาน มีไสลด์โชว์ภาพของคู่บ่าวสาว แล้วก็มีอาหารเป็นซุ้มๆ เดินหยิบชิมกันได้ ตามแต่ต้องการ แน่นอน ที่ขาดไม่ได้ก็ต้องถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาว ที่กล่าวมาทั้งหมด มันเก๊าะ ธรรมดาๆ จะมาเขียนเล่าทำไมเนี่ย อย่าเพ่งปิด อ่านต่ออีกนิดน่า

ในงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นการจับกลุ่มคุยกัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ อาจจะไม่ได้เจอกันมานาน มาเจอกันในงาน ก็ต้องการไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกัน นั่นก็ธรรมดาอีก ที่แปลกคือ มีพี่ อ. (ขอใช้อักษรย่อ จะได้ไปฟ้องไม่ได้ ) มีกิจกรรมที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คือพี่เค้ามีความสุขกับการได้ถ่ายรูปกับมุมต่างๆ ของงาน โดยไม่ต้องมีคู่บ่าวสาวมาถ่ายด้วย เมื่อได้ไปสัมภาษณ์ ก็ได้เหตุผลมาว่า ก็โอกาสที่จะได้แต่งตัวสวยๆ ไม่ได้มีมากนัก ต้องถ่ายรูปเก็บไว้สิ (เออ เหตุผลฟังขึ้นอ่ะ แต่ยังไม่คิดจะทำ พี่เค้าบอกว่า แต่ก่อนก็ไม่กล้า พออายุมากขึ้นก็เป็นเอง 555) พี่แกก็เลยมีความสุขกับการ post ท่าต่างๆ กับมุมต่างๆ ในงาน โดยมีพี่ จ. ใจดี (กิ๊กพี่ อ.) คอยถ่ายให้อย่างเต็มอกเต็มใจ ทำให้พวกเราที่เหลือ มีกิจกรรมร่วมคือคอยชมลีลาพี่เค้า หรือบางทีก็มาถ่ายด้วย และแถมด้วยเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มอันเกินจากชมลีลาของพี่ อ. ทำให้มีความสุขหลังจากทำงานมาหนึ่งอาทิตย์

เอาเป็นว่าขอบคุณ พี่ อ. ที่ทำให้งานแต่งงานธรรมดา ไม่ธรรมดา และเสียงหัวเราะ และความสุขเล็กๆ กลับบ้าน ชอบพี่จริงๆ อ่ะ 555

หัดใช้กล้องภาค 2



อ่านหัวข้อแล้วคงจะงงว่า แล้วไอ้ภาคหนึ่งเนี่ย มันอยู่ที่ไหนเหรอ (ภาคหนึ่งอยู่นี่)
อาทิตย์ที่ผ่านมา แทนที่จะนอนอยู่บ้านสบายๆ เพราะเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ก็ออกไปเดินป่าให้ลำบากซะงั้น เลยมีรูปมาให้ดู เป็นการหัดใช้กล้องที่ซื้อมานานพอสมควร แต่ยังใช้ไม่ค่อยเป็น แถมก็ยังไม่อ่าน manual เหมือนเดิม ตามแบบฉบับ engineer คือลองก่อน ไม่ได้ค่อยอ่าน document อ่ะ เลยได้มารูปมาแบบเนี้ยะ


ทำยังไง ก็ถ่าย Macro ไม่ได้ แงๆๆๆๆๆ

เห็ดจ้า

เงา...น้ำ


เห็ดอีกแระ งานนี้เห็ดเป็นพระเอกอ่ะ



ผีเสื้อตัวนี้ วิญญาณนางแบบเข้าสิง อยู่นิ่งให้ถ่ายได้แบบจ่อติดปีกเลย




รูปสุดท้ายแระ ก็ยังเป็นเห็ดๆๆๆๆ แล้วก็เห็ด


จบฮับ...