skip to main |
skip to sidebar
เครื่องลงประมาณ หกโมงเกือบครึ่ง เร็วกว่ากำหนด เกือบครึ่งชั่วโมง
รู้สึกว่าไกลมากจาก Sanfran มา Boston หลับๆ ตื่นๆ ไปหลายตลบ ก็ไม่ถึงซะที
แต่ว่าวิวสวยมาก มองลงมาจากเครื่อง เห็นไฟในเมืองสวยดี
เห็นดาวบนฟ้า ด้วย ดูจากบนเครื่องเนี่ย เห็นดาวใหญ่ขึ้นแฮะ (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า)
เดินไปเอากระเป๋า เหลืออยู่สามสี่ใบ เลยหาง่าย ได้กระเป๋ามาแล้ว
ก็เดินออกมาต่อ taxi พอเดินออกจากตึก
โอ๊ยโหย ....... หนาวมากๆ อ่ะ ดีนะที่คุณ pC ให้ใส่ลองจอห์นข้างใน ก่อนออกมา
ไม่งั้นแย่ๆ แน่ๆ เลยอ่ะ กว่าจะขนกระเป๋าขึ้นรถเสร็จ เข้าไปนั่งในรถ
ตัวก็เย็นเจี๊ยบไปแระ
มาถึงบ้าน เอากระเป๋าเข้ามากองๆ ไว้ก่อน
หิวมาก ขอกินก่อนละกัน กินเสร็จ ขอนอนซักประเดี๋ยว (ทั้งๆ ที่นอนมาบนเครื่องจนเบื่อแล้ว)
ตื่นมาจัดของเข้าตู้ อืม ทำไมรู้สึกว่าของน้อยกว่าที่คิดอ่ะ
ลืมอะไรหรือป่าวเนี่ย ทำไมเอาของมาน้อยจัง ตอนจัดมารู้สึกเหมือนกันเยอะกว่านี้น๊า ???
พอจัดของเสร็จ อาบน้ำ คุณ Pc ชวนไปซื้อของกันดีกว่า จะได้เสร็จๆ
เดินไปเอารถเช่า หนาวมากๆ แต่อีกคนบอกว่า เนี่ย ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่นะเนี่ย :-P
(ก็เค้าไม่ใช่คนแถวนี้นี่ จะได้ชินอ่ะ)
นั่งรถไป อ่านวิธีไป (จาก google) แหะๆ หลงอ่ะ
เลี้ยวไปเลี้ยวมา ไม่ถึงซะที เอาใหม่ ลองอีกทาง
คราวนี้สำเร็จ ไปถึง IKEA เป็นคล้ายๆ HomePro บ้านเรา
ขายเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน เข้าไปก็ตื่นตาตื่นใจดีอ่ะ
เค้าจะแบ่งเป็น show room ที่แสดงของ คล้ายกับการแสดงเฟอร์นิเจอร์ทั่วๆ ไป
จัดเป็นห้อง เขียนราคาแล้วก็รายละเอียดติดไว้ที่เฟอร์แต่ละชิ้น
พร้อมทั้งบอกตำแหน่งว่าเราจะไปหยิบสินค้าได้ที่ไหน ไม่ได้ตั้งไว้ด้วยกันกับที่จัดแสดงให้ดู
แต่ก่อนที่จะเดินดูของ ขอกินก่อนอ่ะ (หิวอีกแล้ว)
มื้อนี้ กินสลัดแซลมอนสด แซนวิซกุ้ง แล้วก็ข้าวหน้าไก่ (จริงๆ ไม่ได้เรียกอย่างงี้อ่ะ แต่รสชาติเป็นข้าวหน้าไก่จิงๆ อ่ะ)
ก่อนกิน อืม... ถ่ายรูปไว้ดีกว่า น่ากินดี พอเอากล้องออกมา จะถ่าย แบตฯ หมด!!!
สงสัยเมื่อวานดูวิดีโอในกล้องนานไปหน่อย ก็เลยอดเลย
กินเสร็จ ก็เดินดูของ มีของแปลกๆ เยอะเลย สนุกดี
แล้วก็ได้โต๊ะมาหนึ่งตัว กะเก้าอี้ ยังกองอยู่เลย ไม่มีคนต่อให้
แงๆๆๆๆๆ อยากใช้เร็วๆ อ่ะ เมื่อไหร่จะต่อให้ซักทีเจ้าคะ :-(
หลังจากเดินทางมาสิบกว่าชั่วโมง จากกรุงเทพฯ และ transit ที่ไทเป ก็มาถึงซานฟรานจนได้เป็นการเข้า USA ครั้งที่สอง ครั้งแรก เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรนอกจาก รอคิวนาน กะตื่นเต้นตอนตอบคำถามนิดหน่อย กลัวจะฟังไม่ออก ตอบไม่ถูก มาครั้งนี้ ก็มาเข้าที่เดิม บรรยากาศเดิม คนเยอะเหมือนเดิมแต่ .... มันไม่เหมือนเดิมอ่ะ :-(รอต่อคิวนานมาก พอถึงคิว ก็เดินเข้าไปพร้อมกันสองคน แล้วก็เริ่มถามคำถาม อืม......แล้วก็ตอบคำถาม อืม .......ถามอยู่พัก ก็บอกว่าให้ไปที่อีกห้องหนึ่งอืม .... มีปัญหาแล้วล่ะสิเดินไปอีกห้องนึง มีคนรออยู่ประมาณ 2 กลุ่มเอา passport ไปใส่ไว้ใน queue รอเรียก ....หันมามองหน้ากัน ประมาณว่า ถ้ากลับก็กลับด้วยกันนะ (ขำๆ)นั่งๆรอ ไป ก็มีคนเข็นกระเป๋ามาให้ (คิดในใจว่า เออ ดี แฮะ ไม่ต้องไปเอาเองแต่ .... จะโดนให้กลับมั้ยเนี่ย มันเอากระเป๋ามารอเลยแฮะ )สักพักใหญ่ ก็โดนเรียกเข้าไปในห้องเล็กบรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย ประมาณว่ามีปัญหาอะไรเนี่ยจะโดนไล่กลับไหมน๊อ เริ่มถามคำถามให้ตอบอีกแล้วก็ต้องตอบคำถามอีก .....ประเด็น อยู่ที่ status visa ของคุณ pC แปลกๆ คงโดนทุกครั้งที่เข้าประเทศ :-Pแถมคราวนี้ ยังมีคนติดตามมาด้วย แต่ไม่ยักกะถือ visa ติดตามดันถือเป็น visa ท่องเที่ยว เก๊าะเลยยิ่งแปลกใหญ่ประมาณว่า ถ้าต่างคนต่างมา ก็คงไม่มีปัญหาอ่ะ :-Pก็เลยต้องไปสะดุ้งเฮือกๆ ตอบคำถาม ในห้องสัมภาษณ์อึดใจใหญ่ๆ ทุกอย่างก็เรียบร้อย ได้ stamp มาหกเดือนแต่ก็โดนขู่ว่า คราวหน้าต้องเปลี่ยน visa type มาให้เรียบร้อยเฮ้อ โล่งอกไป ออกมา ก็เลย มีคนเดินนำเอากระเป๋าไป load ไป boston(เดินเองหลงชัวร์)แล้วก็เดินไป check-in เอา boarding pass เดินยากเหมือนกันแฮะ ยังดีที่ไม่ต้องเอากระเป๋ามา check-in ใหม่ด้วยพอจะเข้าไปที่ gate ก็ต้อง scan สัมภาระที่จะเอาขึ้นเครื่องถอดรองเท้า ถอด jacket, notebook ก็ต้องเอาออกมา scan คล้ายๆ กับคราวก่อน แต่ดูจะ strick กว่าเดิมพอเข้ามาได้ ก็มานั่งรอหน้า gate เป็นอันว่า ได้เข้าประเทศมาเรียบร้อยแระ หลังจากตุ๊มๆ ต่อมๆ อยู่พักใหญ่แล้วก็ได้อยู่หกเดือน เย้ๆๆๆๆๆๆๆว่าแต่ เอ ถ้าชั้นมาคนเดียวเนี่ย ก็ไม่ต้องเข้าห้องสัมภาษณ์หรอก เป็นเพราะใครเนี่ย ?? :-P
ไม่ได้เขียนอะไรลงใน blog นานมากๆ
คนอ่านคงจะหนีไปหมดแล้ว
ช่วงนี้ยุ่งมาก จนไม่มีเวลา upblog
จริงๆ แล้วไม่มีเวลามานั่งคิดมุข จะเขียน
ขนาดเวลาอ่าน blog โปรด (ที่ติดยิ่งกว่าละครแล้วตอนนี้) ยังไม่ได้อ่านเลย
แถมยังมีคนปิด blog ไม่ให้อ่านซะงั้น อิอิ
ช่วงนี้มีอะไรต้องทำ ต้องคิด มากเสียจริงๆ
และคงยุ่งๆ ไปอีกสักพัก เอารูปมาฝากดูเล่นรูปนึง เป็นด้านในศาลาร้อยปี วัดราชบพิธ สวยมาก แต่แสงน้อย เลยถ่ายได้ไม่ดี (จริงๆ แล้วคนถ่าย มะค่อยมีฝีมือ ตะหาก :-P)